วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ไอแซค นิวตัน ( Isac Newton )


ชื่อ ไอแซค นิวตัน ( Isac Newton )
เกิดเมื่อ 25 ธันวาคม ค.ศ. 1642
สถานที่เกิด เมืองลินคอล์นเชียร์ ประเทศอังกฤษ
การศึกษา สำเร็จการศึกษาที่วิทยาลัยเคมบริดจ์
ผลงาน ค้นพบแรงดึงดูดของโลก ประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์แบบสะท้อนแสง
ถึงแก่กรรม 20 มีนาคม ค.ศ. 1727 ที่เคนซิงตัน

ประวัติโดยย่อ

ไอแซค นิวตัน หลังจากจบการศึกษาแล้ว เขาได้ทำงานเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ ในปี 1667 เขาพบปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำซึ่งนิวตันรู้และพิสูจน์ได้ว่าแสงสว่างของดวงอาทิตย์ประกอบไปด้วยสี 7 สีทำให้เกิดสีรุ้งนั่นเอง เขาจึงใช้หลักการนี้คิดประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ขึ้นแบบมีตัวสะท้อนแสง นิวตันมักจะใช้เวลาคิดเกี่ยวกับงานของเขาเงียบๆ โดยครั้งหนึ่งเขาสังเกตเห็นการหล่นของผลแอ็ปเปิ้ล ทำให้เขาเกิดความคิดเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงของโลกที่ดึงดูดทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกได้ ด้วยเหตุนี้ในปีค.ศ. 1684 นิวตันประสบความสำเร็จมากในทฤษฎีแห่งการเคลื่อนที่ของการดึงดูดของโลก และเป็นผู้ค้นพบกฏสามข้อ ซึ่งเป็นมาตราฐานของกฏของการเคลื่อนไหว เป็นหลักของวิชาไดนามิกส์ ผลงานของเขาสร้างชื่อเสียงให้กับเขามากจนได้รับบรรดาศักดิ์เป็น " เซอร์ "

อัลเบอร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein)


ชื่อ อัลเบอร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein)
เกิดเมื่อ 14 มีนาคม ค.ศ.1879
สถานที่เกิด เมืองวีร์เตมเบิร์ก ประเทศเยอรมนี
ผลงาน คิดระเบิดปรมาณู คิดทฤษฎีแห่งความสัมพันธ์
ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี1921
ถึงแก่กรรม 18 มิถุนายน ค.ศ. 1955

ประวัติโดยย่อ

ไอน์สไตน์มีพรสวรรค์ทางคณิตศาสตร์และฟิสิกส์มาก เขาได้ศึกษาที่ The Federal Institule of Technology ในซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ไอน์สไตน์เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชีวิตเรียบง่าย ไม่ชอบความหรูหรา การสมาคม เขาไม่ค่อยพิถีพิถันเรื่องเสื้อผ้า ไอน์สไตน์ได้รับการยกย่องอย่างมากโดยเฉพาะทฤษฎีแห่งความสัมพันธ์ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพากันทึ่ง โดยกล่าวว่า " อากาศเป็นส่วนโค้งและอนุภาคที่เคลื่อนไหวเข้าไปในอากาศ ก็จะต้องมีความโค้งอนันต์ด้วย " ไอน์สไตน์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี1921 และได้รับรางวัลเหรียญคอปเลย์ในปี1925 ผลงานของไอน์สไตน์มีความสำคัญมากก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในวงการวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ไอน์สไตน์ยังเป็นผู้ให้กำเนิดระเบิดปรมาณู หรือระเบิดอะตอมอีกด้วย

อริสโตเติล ( Aristotle )


ชื่อ อริสโตเติล ( Aristotle )
เกิดเมื่อ ปี 348 ก่อนคริสตกาล
สถานที่เกิด ประเทศกรีก
ผลงาน เป็นบิดาแห่งชีววิทยา
ถึงแก่กรรม เมื่อ 322 ปีก่อนคริสตกาล

ประวัติโดยย่อ

อริสโตเติลเป็นนักวิทยาศาสตร์และนักปรัชญาชาวกรีกในสมัยโบราณ เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่ทำการศึกษาค้นคว้าในทางวิทยาศาสตร์ทุกแขนงมาเป็นเวลานานมากกว่าหนึ่งพันปี อริสโตเติลเป็นบุตรของนายแพทย์ประจำพระองค์กษัตริย์เมซิโดเนีย เขาได้ศึกษาและอยู่กับพลาโต้ จนพลาโต้เสียชีวิต หลังจากนั้นเขาได้มาเป็นครูสอนให้กับอเล็กซานเดอร์มหาราช ในระยะนั้นอริสโตเติลเขียนตำราไว้มากมาย เช่น ชีววิทยา วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ วิชาการปกครอง ฯลฯ นอกจากนี้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งสัตววิทยา ในฐานะที่เขาเป็นบุคคลแรกที่บันทึกพฟฒิกรรมของสัตว์ พืช และมนุษย์อย่างลึกซึ้ง เป็นผู้ริเริ่มจำแนกสัตว์เป็น 2 พวก คือ สัตว์มีกระดูกสันหลัง และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง

เขาเป็นบุคคลแรกที่ให้ทฤษฎีว่า " โลกอยู่ตรงกลางของจักรวาล โดยมีดวงอาทิตย์และดวงจันทร์หมุนรอบ " และทฤษฎีที่ว่า " วัตถุที่มีน้ำหนักมากจะตกถึงพื้นก่อนวัตถุที่มีน้ำหนักเบา " ทฤษฎีของเขามากมายเป็นที่ยอมรับนับถือมากจนถึงสมัยคริสตศตวรรษที่ 14 แม้ว่าทฤษฎีของเขามีข้อผิดพลาดซึ่งมีผู้สามารถพิสูจน์ว่าผิดในภายหลัง แต่ก็ต้องเข้าใจว่าในสมัยนั้นยังไม่มีกล้องจุลทรรศน์เลย แต่เป็นการแสดงให็เห็นว่าเขาเป็นนักสังเกตและนักคิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง

ลอร์ด เออร์เนสท์ รัทเทอร์ฟอร์ด ( Lord Ernest Rutherford)


ชื่อ ลอร์ด เออร์เนสท์ รัทเทอร์ฟอร์ด ( Lord Ernest Rutherford)
เกิดเมื่อ ค.ศ.1871
ผลงาน โครงสร้างอะตอม งานเกี่ยวกับสสารกัมมันตภาพรังสี
ถึงแก่กรรม ค.ศ.1913

ประวัติโดยย่อ

รัทเทอร์ฟอร์ด เป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวนิวซีแลนด์เกี่ยวกับด้านการทดลองและได้ทดลองเกี่ยวกับโครงสร้างอะตอมโดยใช้การยิงอนุภาคแอลฟาผ่านไปยังแผ่นทองคำ ให้ไปกระทบกับฉากเรืองแสงด้านหลังและพบว่า แบบจำลองอะตอมของเขาขัดแย้งกับดอลตัน รัทเทอร์ฟอร์ดจึงเสนอแบบจำลองอะตอมใหม่ว่า อะตอมประกอบด้วยนิวเคลียสมีโปรตอนซึ่งมีขนาดเล็กแต่มีมวลมากรวมกันอยู่ตรงกลางนิวเคลียส ส่วนอิเล็กตรอนซึ่งมีประจุลบและมีมวลน้อยมากวิ่งอยู่รอบๆนิวเคลียสเป็นบริเวณกว้าง นอกจากนี้เขายังศึกษาเกี่ยวกับสสารกัมมันตภาพรังสีต่างๆอีกด้วย

หลุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur)


ชื่อ หลุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur)
เกิดเมื่อ 25 ธันวาคม ค.ศ. 1822
สถานที่เกิด เมืองโดเล ประเทศฝรั่งเศส
ผลงาน ค้นพบวัคซีนในการรักษาโรคพิษสุนัขบ้า ค้นพบการพาสเจอร์ไรซ์
ถึงแก่กรรม 28 กันยายน ค.ศ. 1895 รวมอายุ 73 ปี

ประวัติโดยย่อ

หลุยส์ ปาสเตอร์ สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในปารีส เมื่ออายุได้ 26 ปีเขาค้นพบกรดส้มมะขามซึ่งนำชื่อเสียงมากมาสู่เขาเพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วิชาอินทรีย์เคมีเจริญขึ้น จากการพบสารไอโซเมอร์ ปาสเตอร์ย้ายไปเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่เมืองเบอซังกอง ภายหลังย้ายไปเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่เมืองสตราเบิร์ก เขาแต่งงานกับบุตรสาวคนที่สองของอธิการบดีของมหาลัย

ปาสเตอร์ศึกษาและค้นคว้าเรื่องจุลินทรีย์ เขาพบว่าจุลชีพที่ทำให้อาหารเน่าเปื่อยไม่ได้เกิดขึ้นเองแต่เกิดจากฝุ่นละอองในอากาศ วิธีป้องกันคืออย่าให้อากาศหรือฝุ่นละอองเข้าไปโดยอาศัยการให้ความร้อน45องศาเซนติเกรต เรียกว่า "ปาสเตอใรเซชั่น"

ปาสเตอร์มีความตั้งใจจะคิดหาวิธีการป้องกันและรักษาโรคกลัวน้ำ โดยการฉีดเชื้อไวรัสโรคกลัวน้ำแก่สุนัขเป็นภูมิคุ้มกันและหลังจากนั้นก็ฉีดเชื้อไวรัสที่ทำให้อ่อนแอลงให้แก่สุนัข ปรากฏว่าสุนัขไม่ติดโรคกลัวน้ำ เขารักษาโรคกลัวน้ำได้สำเร็จ ชื่อเสียงของปาสเตอร์เป็นที่ร่ำลือมาก เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณความดีของปาสเตอร์ ตามหัวเมืองของประเทศต่างๆ มีการจัดตั้งสถานปาสเตอร์ขึ้น

นอกจากนี้ปาสเตอร์ยังคิดยารักษาโรคต่างๆมากมาย เช่น พิษจากงู อหิวาตกโรค วัณโรค ทำให้เขาเป็นที่ยกย่องและสรรเสริญของทั่วโลก

โทมัส เอลวา เอดิสัน ( Thomas Alva Edison )


ชื่อ โทมัส เอลวา เอดิสัน ( Thomas Alva Edison )
เกิดเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1847
สถานที่เกิด เมืองมิลาน มลรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐฯ
ผลงาน ประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าเป็นคนแรก ประดิษฐ์หีบเพลง จานเสียง เครื่องบันทึก เสียง กล้องถ่ายภาพยนตร์
ถึงแก่กรรม 18 ตุลาคม ค.ศ. 1931

ประวัติโดยย่อ

โทมัส เอดิสัน เป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์มาก เขาเริ่มประดิษฐ์สิ่งต่างๆตั้งแต่อายุได้ 10 ขวบ เมื่อเขาอายุ 12 ขวบ เขาเริ่มสะสมข้าวของเกี่ยวกับการทดลองวิทยาศาสตร์ โดยทำงานเป็นเด็กขายหนังสือพิมพ์ ต่อมาเขาได้ทำงานเป็นเด็กเดินข่าวของรถไฟ เขาใช้เวลาของเขาทดลองวิทยาศาสตร์ในโบกี้เก่าๆ ครั้งหนึ่งเอดิสันทดลองเคมีทำให้เกิดเสียงระเบิดไฟไหม้ พนักงานดูแลผลักเขาลงมาจากรถ พร้อมด้วยอุปกรณ์เคมีนั้น บางแห่งก็ว่าเขาถูกตบแก้วหูทำให้แก้วหูหนวกและอื้อ บางแห่งว่าเกิดเสียงระเบิดสนั่นทำให้เอดิสันกลายเป็นคนหูหนวก แต่ตามที่เอดิสันแถลงเขากล่าวว่า การที่เขาหูพิการเกิดจากเขาลื่นไถลลงไปใต้ท้องรถไฟจนเกือบจะถูกล้อทับ ได้มีคนช่วยเหลือเขาไว้โดยจับหูเขาดึงขึ้นมาบนรถ เมื่อเอดิสันอายุ 21 ปี เขาจดลิขสิทธ์สิ่งประดิษฐ์ของเขามากกว่า 1200 อย่าง ในปีค.ศ. 1878 เขาประดิษฐ์สิ่งต่างๆเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้า เอดิสันคิดค้นประดิษฐ์หลอดไฟฟ้า โดยนำหลอดไฟฟ้าของโจเซฟ สวอน มาปรับปรุง โดยทำให้หลอดแก้วเป็นสุญญากาศ แท่งคาร์บอนหรือเส้นลวดก็จะให้แสงส่วางมาก โดยไม่ทำให้หลอดแก้วร้อน สิ่งประดิษฐ์นี้สร้างชื่อเสียงให้กับเขามาก นอกจากนี้เอดิสันได้คิดประดิษฐ์สิ่งต่างๆไม่หยุดหย่อน เขาสามารถสร้างเครื่องบันทึกเสียงได้ทั้งๆที่เขาเป็นคนหูหนวก รวมไปถึงหีบเสียงและกล้องถ่ายภาพยนตร์ ผลงานมากมายของเขาทำให้เขาเป็นที่กล่าวขานว่า " เป็นยอดนักประดิษฐ์ " เมื่อเอดิสันถึงแก่กรรมจึงมีการจัดให้สร้างหอเมนโลปาร์คเป็นที่ระลึกถึงความสามารถของเอดิสัน



ผลงาน
-เป็นผู้ประดิษฐ์หลอดไฟฟ้า
-เป็นผู้ประดิษฐ์หีบเสียง
-เป็นผู้ประดิษฐ์จานเสียง
-เป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องบันทึกเสียง
-เป็นผู้ประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพยนตร์

เซอร์ ฮัมฟรีย์ เดวี ( Sir Humphry Davy )


ชื่อ เซอร์ ฮัมฟรีย์ เดวี ( Sir Humphry Davy )
เกิดเมื่อ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1778
สถานที่เกิด เมืองคอร์นวอล ประเทศอังกฤษ
ผลงาน ค้นพบยาสลบ แยกองค์ประกอบของน้ำได้สำเร็จ ประดิษฐ์ตะเกียงนิรภัย
ค้นพบธาตุต่างๆจำนวนมาก
ถึงแก่กรรม 29 พฤษภาคม ค.ศ. 1829 ที่เมืองเจนีวา

ประวัติโดยย่อ

ปี ค.ศ.1795 หลังจากบิดาของเขาถึงแก่กรรมฮัมฟรีย์ เดวีเข้าทำงานในร้านปรุงยาแห่งหนึ่ง ทำให้เขาเริ่มสนใจงานทางวิทยาศาสตร์มากขึ้น เขาสนใจที่จะเรียนรู้โดยพยายามเสาะแสวงหาตำราต่างๆมาศึกษา เขาใช้ทฤษฎีจากตำราของลาวัวซิเยอร์ในการค้นคว้าทดลอง เมื่อเขาออกจากสำนักปรุงยา เขาได้เข้าทำงานกับ ดร. โทมาส เบคโคส์ เป็นผู้ดูแลห้องทดลองวิทยาศาสตร์ เดวีทำการทดลองและค้นคว้าด้วยตนเอง จนกระทั่งเขาพบก๊าซชนิดหนึ่ง ( คือ ไนตรัสออกไซด์ ) เดวีสูดเข้าไปโดยบังเอิญทำให้เขาหมดสติไป และตื่นขึ้นมาโดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ เขาเรียกมันว่า " ก๊าซหัวเราะ " ปัจจุบันใช้ในการทำยาสลบเพื่อระงับความเจ็บปวดของคนไข้ขณะผ่าตัด การค้นพบก๊าซนี้สร้างชื่อเสียงให้เขาโดยไม่รู้ตัว ต่อมาเขากลายเป็นศาสตราจารย์ ฮัมฟรีย์ออกเดินทางบรรยายความรู้ทางเคมีที่เขาทดลองออกสู่ประชาชน ในจำนวนผู้สนใจการบรรยายของเดวี มีอยู่คนหนึ่งซึ่งต่อมาได้กลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงคือ ไมเคิล ฟาราเดย์ เมื่อปีค.ศ. 2358 เดวีได้ประดิษฐ์ตะเกียงนิรภัยขึ้นเพื่อใช้ในกิจการเหมืองเป็นครั้งแรก เนื่องจากในเหมืองมีก๊าซที่เรียกว่า " ไฟอับ " หรือไฟร์แดมพ์ทำให้เกิดระเบิด เดวีจึงสร้างตะเกียงนิรภัยให้คนงานถ่านหินใช้ สร้างชื่อเสียงให้กับเขามาก นอกจากนี้เดวียังเป็นคนค้นพบไอโอดีนอีกด้วย เดวีมีชื่อเสียงมากจนได้รับบรรดาศักดิ์ให้เป็น " เซอร์ " ในปี1812



ผลงาน
-เป็นผู้พบยาสลบที่ใช้ในทางการแพทย์
-เป็นผู้ประดิษฐ์ตะเกียงเจ้าพายุ ( ตะเกียงสำหรับให้แสงสว่าง สำหรับการขุดแร่ในอุโมงค์ )

ชาร์ลส์ ดาร์วิน (Charles Darwin)


ชื่อ ชาร์ลส์ ดาร์วิน (Charles Darwin)
เกิดเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1809
สถานที่เกิด ในชูร์เบอรี่ ปรกะเทศอังกฤษ ผลงาน เป็นบิดาแห่งวิชาพันธุศาสตร์
ผู้ค้นพบการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
ถึงแก่กรรม 19 เมษายน ค.ศ.1882

ประวัติโดยย่อ

ชาร์ล ดาร์วิน เป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ซึ่งได้ให้ผลการพิสูจน์สำหรับทฤษฎีวิวัฒนาการ ในวัยเด็กดาร์วินสนใจในธรรมชาติ และวิทยาศาสตร์ เขาได้ศึกษาวิชาแพทย์ในวิทยาลัย แต่ก็ไม่ชอบ จึงได้ศึกษาวิชาศาสนาแทน แต่ก็ศึกษาวิชาชีววิทยา ธรณีวิทยา และฟอสสิสไปด้วย ในปี 1831 หลังจากที่เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์แล้ว เขาได้เดินทางศึกษาวิทยาศาสตร์รอบโลกด้วยเรือของราชนาวีอังกฤษที่ชื่อบีเกิล และได้รวบรวมฟอสสิสและศึกษาเกี่ยวกับสัตว์ที่มีชีวิตที่เขาได้พบเห็น การเดินทางครั้งนี้ทำให้ดาร์วินมีความเชื่อว่าพืชและสัตว์ทั้งหลายไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในทันทีทันใด แต่ชนิดของต้นไม้หรือสัตว์มีวิวัฒนาการหรือมีการพัฒนา สิ่งเก่าตายไปหลังจากเวลาอันยาวนาน ดาร์วินได้ใช้เวลา 20 ปี ต่อมาในอังกฤษรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนทฤษฎีวิวัฒนาการของเขา ในปี 1859 เขาได้พิมพ์หนังสือที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับวิวัฒนาการ ซึ่งมีชื่อว่า On the Origin of the Species ดาร์วินถึงแก่กรรมในปี ค.ศ.1882



ผลงาน
-เป็นผู้การค้นพบการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
จนได้รับการขนานนามว่า "บิดาแห่งวิชาพันธุศาสตร์"

เกกอร์ เมนเดล ( Gregor Mendel )


ชื่อ เกกอร์ เมนเดล ( Gregor Mendel )
เกิดเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1822
สถานที่เกิด ไฮน์เซนดรอฟ ประเทศออสเตรีย
ผลงาน เป็นผู้ค้นพบทฤษฎีการถ่ายพันธุ์
ถึงแก่กรรม ค.ศ.1884

ประวัติโดยย่อ

เกกอร์ เมนเดล เป็นบุตรของชาวนายากจน เขาจึงต้องบวชเพื่อจะได้มีโอกาสศึกษาต่อ หลังจากศึกษาจบ เขาเป็นบาทหลวงและทุ่มเทเวลาให้กับการสอนและการทำงานในสวนของวัด เขาเกิดความสงสัยว่าอะไรเป็นสาเหตุของสิ่งมีชีวิตทั้งๆที่อยู่ในตระกูลเดียวกันก็ทำให้สี ขนาด และรูปร่างแตกต่างกันไป เมนเดลใช้เวลาในการทดลองเกี่ยวกับต้นถั่งเป็นเวลาถึงแปดปี ในที่สุด เมนเดลสรุปผลออกมาเป็นกฏดังนี้ 1. เมื่อผสมถั่วต้นสูงกับถั่งต้นแคระผลผลิตรุ่นที่หนึ่งออกมาจะเป็นถั่วต้นสูงหมดทุกต้น เพราะถั่วต้นสูงเป็นหน่วยถ่ายพันธุ์ที่ สำคัญคือ " โดมิแนนท์ยีน " เรียกว่าลักษณะเด่น ส่วนถั่วต้นเตี้ยเป็นหน่วยถ่ายพันธุ์ตัวรองคือ " รีเซสซีพยีน "เรียกว่าลักษณะด้อย 2. เมื่อนำผลผลิตรุ่นแรกมาผสมกับผลผลิตรุ่นที่สองจะมีถั่วต้นเตี้ยหนึ่งในสามแสดงใหเห็นว่าลักษณะด้อยนั้นไม่ได้หายไปแต่แฝงอยู่เท่านั้น เมนเดลเขียนเรื่องราวเหล่านี้ส่งไปยังสมาคมวิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งกรุงบรึน แต่ไม่มีใครสนใจเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้น 16 ปี ตรงกับปีค.ศ. 1900 มีนักวิทยาศาสตร์ทำการวิจัยเกี่ยวกับรื่องพันธุกรรม ผลงานของเมนเดลจึงได้ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ และเป็นที่ประจักษ์ถึงความยิ่งใหญ่ของเมนเดล ผู้ซึ่งตัวเขาเองขณะที่มีชีวิตอยู่ไม่เคยได้รับการยกย่องจากงานชิ้นยอดเยี่ยมที่โลกไม่มีวันลืมผลงานของเขา

กาลิเลโอ กาลิเลอิ ( Galileo )


ชื่อ กาลิเลโอ กาลิเลอิ ( Galileo )
เกิดเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1564
สถานที่เกิด เมืองปิซา ประเทศอิตาลี
การศึกษา สำเร็จการศึกษาที่วิทยาลัยแห่งปิซา
ผลงาน ประดิษฐ์นาฬิกาลูกตุ้มเป็นคนแรก ประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์เป็นคนแรก
ค้นพบดวงจันทร์ของดาวพฤหัส 4 ดวง เป็นผู้ค้นพบกฏของความโน้มถ่วง
ถึงแก่กรรม 8 มกราคม ค.ศ. 1643

ประวัติโดยย่อ

กาลิเลโอมีความสนใจวิชาวิทยาศาสตร์มาก เมื่ออายุ 18 ปี วันหนึ่งเขานั่งอยู่ในโบสถ์และสังเกตเห็นการแกว่งของตะเกียงที่ห้อยลงมาจากเพดานใช้เวลาเท่ากัน แม้ว่าระยะแกว่งจะสั้นกว่าเดิมโดยใช้การเต้นของชีพจรจับเวลา จากการค้นพบนี้ทำให้กาลิเลโอตั้งกฎเกี่ยวกับการแกว่งลูกตุ้มนาฬิกาขึ้นและประดิษฐ์นาฬิกาลูกตุ้มขึ้นเป็นคนแรก

ค.ศ. 1610 กาลิเลโอ ประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์ขึ้น เขาค้นพบดวงจันทร์ของดาวพฤหัส 4 ดวงและดวงจันทร์โคจรรอบดาวพฤหัส ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎีของโคเปอร์นิคัสที่ว่า " ดวงจันทร์โคจรรอบโลก " กาลิเลโอไม่ได้รับการยกย่องมากนักในสมัยนั้น เนื่องจากความคิดของกาลิเลโอขัดกับทฤษฎีของอริสโตเติลที่ว่า " วัตถุน้ำหนักไม่เท่ากัน วัตถุที่หนักกว่าจะตกถึงพื้นก่อน " แต่ทฤษฎีของกาลิเลโอแย้งว่า " วัตถุที่มีน้ำหนักต่างกันจะตกถึงพื้นพร้อมกัน " เขาพิสูจน์ทฤษฎีนี้ต่อหน้าสาธารณชนโดยโยนวัตถุ 2 สิ่งลงมาจากหอเอนเมืองปิซา ทฤษฎีนี้กลายเป็นข้อกล่าวหาทำนองลบหลู่ศาสนา เพราะประชาชนในยุคนั้นเชื่อแต่อริสโตเติลและไม่กล้าคัดค้านหรือพิสูจน์คำกล่าวของอริสโตเติล ปัจจุบันกาลิเลโอได้รับยกย่องว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่สำคัญคนหนึ่งของโลก

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แนะนำตัว


ชื่อ นางสาวธนาภา ภูนอนไร่
รหัสนิสิต 51010514513

สาขาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา

คณะศึกษาศาสตร์

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Tanapa